พลายแก้วได้นางพิม
รุ่งเช้าเณรแก้วรู้สึกคิดถึงนางพิมมาก ได้ไปบิณฑบาตรที่บ้านนางพิม นางพิมไม่ยอมลงไปใส่บาตร สายทองจึงต้องลงไป แล้วเณรแก้วจึงว่ามีเรื่องอยากจะคุยกับนางสายทอง ให้พานางพิมไปอาบน้ำที่ท่าน้ำ เมื่อถึงเวลาบ่าย สายทองพานางพิมไปอาบน้ำ เณรแก้วจึงมาตามที่ได้นัดกันไว้ เมื่อพบกันเณรแก้วจึงอ้อนวอนให้สายทอง ช่วยให้ตนได้พบกับนางพิม หากสำเร็จจะทดแทนบุญคุณ วันรุ่งขึ้น นางสายทองลงมาใส่บาตร ได้บอกกับเณรแก้วว่า จะพานางพิมไปที่ไร่ฝ้ายตอนบ่าย เมื่อถึงตอนบ่ายนางสายทองกับนางพิม บอกนางศรีประจันว่าจะไปเก็บฝ้ายในไร่ ส่วนเณรแก้วก็ไปลาสึกกับชีต้น แล้วพาไปพบกับนางพิมที่ไร่ฝ้าย เมื่อพบกันนางพิมไม่ยอมพูดจา เณรแก้วจึงพูดถึงเรื่องตอนเด็กให้ฟัง ทำให้นางพิมจำได้ว่า เณรแก้วนั้นเคยเป็นเพื่อนเล่นกันมาในตอนเป็นเด็ก
" เมื่อเด็กเด็กเล็กเล่นอยู่ด้วยกัน | สารพันร่วมรักกันหนักหนา | |
เมื่อเล่นขอปลูกหอกับแก้วตา | พี่พาเจ้าหนีขุนช้างไป | |
ขุนช้างตามพบมันรบพี่ | พลั้งตีถูกน้องเจ้าร้องไห้ | |
แก้วตามาประหม่าพี่ยาไย | จงปราศรัยปรองดองสักสองคำ" |
แล้วเณรแก้วก็เข้าเล้าโลมนางพิมด้วยประการต่างๆ นางพิมจึงต่อว่า
- "...อดข้าวดอกนะเจ้าชีวาวาย ไม่ตายดอกเพราะอดเสน่หา..."
เมื่อถึงเวลาค่ำ เณรแก้วได้ดูฤกษ์ยามที่จะไปบ้านนางพิม
".....ยืนขยับเพ่งพิศเมฆฉาย ..... | พิเคราะห์ดูหลาวเหล็กและผีหลวง.... | |
.....ปลอดห่วงดวงใจก็ฮึกหาญ | สูรย์จันทร์แม่นยำด้วยชำนาญ | |
ย่างเท้าก้าวผ่านไปตามทิศ..... " |
เณรแก้วได้เสกข้าวสารหว่านไปจนผู้คนในบ้านหลับสนิท แล้วสะเดาะกลอน กลิ้งครกเหยียบยืนขึ้นไปบนเรือน และได้นางพิมเป็นเมีย หลังจากกลับจากบ้านนางพิม ก็ได้ไปขอให้ชีต้นบวชให้ดังเดิม 

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น